ศาลหลักเมืองตรัง
ในปี พ.ศ. 2354
มีการตั้งเมืองตรังและมีการตั้งศาลหลักเมืองตรังปัจจุบันตั้งอยู่ที่ตำบลตวนธานี
อำเภอกันตัง
สถานที่ตั้งตรงจุดนี้อยู่บริเวณที่ตั้งเมืองเก่าหลักฐานการสร้างศาลหลักเมืองตรังเป็นเพียงการบอกเล่าของเชิงตำนานที่ถ่ายกันมาในหมู่ชาวตรังรุ่นเก่าๆว่าศาลหลักเมืองแห่งนี้มีวิญญาณอภิบาลเป็นสตรีจึงเรียกกันว่าศาลเจ้าแม่หลักเมืองเนื่องจากในพิธีตั้งศาลหลักเมืองนั้น
พระอุภัย(บางแห่งว่าพระอุไทย) เจ้าเมืองให้ทหารตีฆ้องร้องป่าวไปตามบ้านต่างๆ ถ้าผู้ใดขานรับให้นำตัวมาฝังในการตั้งศาลหลักเมือง
ชาวบ้านส่วนใหญ่รู้เรื่องเข้าจึงไม่ยอมขาน
แต่หญิงมีครรภ์ผู้หนึ่งชื่อนางบุญมากลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัวเกิดพลั้งเผลอขานรับจึงนำตัวไปฝังพร้อมพิธีฝังเสาหลักเมือง
ที่ตั้งศาลหลักเมืองเดิมเป็นเพิงเล็กๆหลังคามุงสังกะสีเสาหลักเมืองมีจอมปลวกขึ้นจนมองไม่เห็นตัวเสา
เมื่องถึง พ.ศ. 2504-2505 ทางจังหวัดได้ตั้งศาลาจัตุรมุขขึ้นแทนเพิงหลังคาเก่า
พ.ศ. 2530 สร้างรั้วและพ.ศ. 2532 ลาดพื้นรอบๆศาลา
ศาลหลักเมืองตรังนับเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวตรังทั่วไปจนเกิดความเชื่อถือศรัทธาในทางความศักดิ์สิทธิ์มีการบนบานศาลกล่าวอยู่เสมอ
เล่ากันว่าคณะหนังตะลุง
มโนราห์ที่เดินทางผ่านศาลหลักเมืองนี้จะต้องตีกลองหรือบรรเลงดนตรีสักการะทุกครั้งที่ผ่าน
เพื่อมิให้เกิดข้อขัดข้องในการเดินทางและการแสดง
อีกเรื่องหนึ่งคือตามประเพณีถือศีลกินเจของคนไทยเชื่อสายจีนในจังหวัดตรังซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
เมื่อขบวนแห่พระผ่านศาลหลักเมืองก็ต้องแวะหยุดสักการะ
นอกจากนี้ชาวบ้านก็ได้ร่วมกันจัดพิธีถือศีลกินเจที่บริเวณศาลหลักเมืองขึ้นเป็นครั้งแรกใน
พ.ศ.2511 และจัดต่อมาจนถึง พ.ศ.2533 จึงเลิกไปเพราะทางจังหวัดเตรียมการบูรณะ
ใน พ.ศ.2535
ทางจังหวัดเริ่มโครงการบูรณะศาลหลักเมืองตรังเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ
โดยสร้างอาคารศาลหลักเมืองเป็นทรงไทยจัตุรมุขและจัดทำยอดเสาหลักเมืองใหม่
นำขึ้นน้อมเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมในวันอังคารที่
31 สิงหาคม พ.ศ. 2536 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
และอันเชิญยอดเสาหลักเมืองกลับจังหวัดตรัง
ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จฯแทนพระองค์ทรงเปิดศาลหลักเมืองตรังในวันที่ 8
เมษายน พ.ศ.2538
ทุกวันนี้
ความเชื่อถือศรัทธาต่อศาลหลักเมืองตรังยังคงสืบทอดต่อๆมาผู้คนที่ผ่านไปมามักยกมือไหว้คาระวะ
หรือแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
เพราะศาลหลักเมืองเป็นที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองตรังมานานกว่า 100 ปี
แผนที่การเดินทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น